เฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้สูงอายุ เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและใช้งานง่าย

1. ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในบ้าน

เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เตียงสูงเกินไป, เก้าอี้นุ่มเกินไปจนลุกลำบาก, หรือโต๊ะที่มีขอบแหลม ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการ “หกล้ม” หรือ “ลื่นล้ม” ซึ่งอาจนำไปสู่อาการบาดเจ็บรุนแรง เช่น กระดูกหัก หรือแม้แต่การเสียชีวิต

TIP: เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีมุมมน พื้นผิวกันลื่น และมีความมั่นคง เช่น เก้าอี้มีพนักพิงและที่วางแขนจะช่วยให้ลุก-นั่งได้ง่ายขึ้น

2. ส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างอิสระ

ผู้สูงอายุที่สามารถลุก-นั่งหรือทำกิจกรรมเบา ๆ ได้ด้วยตนเอง จะมีความมั่นใจและมีสุขภาพจิตที่ดี เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบให้รองรับร่างกาย เช่น เตียงปรับระดับ, โต๊ะสูงพอดี หรือโซฟาที่มีจุดยึดเกาะ จะช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาคนดูแลตลอดเวลา

ประโยชน์เชิงจิตใจ: ความรู้สึกว่า “ยังทำอะไรเองได้” ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าและไม่เป็นภาระ

3. รองรับภาวะร่างกายที่เปลี่ยนแปลง

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกจะอ่อนแรงลง ตาเริ่มมองเห็นไม่ชัด มือสั่น หรือสมดุลร่างกายแย่ลง การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ “เข้าใจร่างกายผู้สูงอายุ” เช่น พื้นผิวที่ไม่ลื่น, เก้าอี้ที่ไม่ลึกเกินไป, หรือการเว้นระยะห่างพอเหมาะ จึงช่วยลดความเครียดจากการใช้งานและลดอาการปวดเมื่อย

4. ช่วยให้ผู้ดูแลทำงานง่ายขึ้น

หากบ้านมีเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เตียงเตี้ยเกินไป การอุ้มผู้สูงอายุขึ้น-ลง จะทำให้ผู้ดูแลมีโอกาสบาดเจ็บเองได้ด้วย ดังนั้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะทั้งต่อผู้ใช้งานและผู้ดูแล เช่น เตียงติดล้อปรับระดับ หรือเก้าอี้แบบหมุนได้ จะทำให้การดูแลง่ายขึ้น และลดภาระทางกายภาพ

5. การออกแบบเพื่อรองรับอุปกรณ์ทางการแพทย์

บ้านที่มีผู้สูงอายุอาจต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องออกซิเจน, เตียงไฟฟ้า, วอล์กเกอร์ หรือรถเข็น เฟอร์นิเจอร์ควรจัดวางให้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้ เช่น พื้นที่โล่ง, ประตูไม่มีธรณี, หรือเตียงที่เว้นพื้นที่ใส่วอล์กเกอร์ด้านข้าง